“ดีใจมากค่ะ ที่ครั้งหนึ่งหนูได้มีโอกาสพบกับผู้อุปการะ ท่านได้สอบถามถึงความสุข ความทุกข์ ชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งหนูก็มีโอกาสบอกกับท่านไปว่า ตั้งแต่ได้รับความช่วยเหลือจากท่าน หนูและครอบครัวก็มีชีวิตที่ดีและมีความสุขมากขึ้น” นางสาวปภาวดี หรือ น้องแพรว อายุ 18 ปี เด็กในความอุปการะมูลนิธิศุภนิมิตฯ จ.กาญจนบุรี เล่าถึงความประทับใจเมื่อครั้งได้พบกับผู้อุปการะ ในกิจกรรมวันผู้อุปการะพบเด็ก sponsor visitday เมื่อหลายปีที่ผ่านมา
แพรว เด็กหญิงที่อาศัยอยู่กับปู่และย่าตั้งแต่เด็ก ด้วยคุณแม่ของแพรวเสียชีวิตไปเมื่อแพรวยังเด็ก และคุณพ่อก็แยกไปมีครอบครัวใหม่ ปู่และย่าจึงรับหน้าที่เป็นผู้ปกครอง ดูแลและให้ความรักกับแพรวมาตั้งแต่เด็ก “ปู่กับย่าเลี้ยงหนูมาตั้งแต่เด็กค่ะ จากการทำไร่ ทำสวน ปลูกขมิ้น ปลูกมัน และพืชตามฤดูกาล แต่รายได้จากการปลูกพืชไม่แน่นอน ในตอนนั้นครอบครัวของหนูยังคงมีฐานะที่ค่อนข้างยากจน ซึ่งหนูอาจะได้เรียนถึงเพียงแค่ชั้น ป.6 หรือ ม.3 ถ้าไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในตอนนั้น”
แต่แล้วโอกาสที่ดีก็เข้ามาในชีวิต เปรียบเหมือนแสงสว่างที่ส่องมาในคืนที่มืดมน แพรวได้รับโอกาสและความช่วยเหลือจากผู้อุปการะผ่าน โครงการอุปการะเด็ก มูลนิธิศุภนิมิตฯ “โครงการอุปการะเด็ก ทำให้หนูได้เรียนหนังสือ หนูได้รับปัจจัยที่จำเป็นในการเรียน ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และในช่วงวิกฤตอย่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา มูลนิธิศุภนิมิตฯ ก็เข้ามาดูแลครอบครัวของหนูนะคะ พี่ๆ เจ้าหน้าที่ก็ได้นำถุงยังชีพ ซึ่งมีทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง และของใช้ที่จำเป็นมาให้ ความช่วยเหลือทั้งหมดที่ได้รับ เป็นสิ่งที่มีค่ากับครอบครัวหนูมากเลยค่ะ ซึ่งทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว และยังทำให้หนูและปู่ย่า มีอาหารในช่วงวิกฤตค่ะ” แพรว กล่าว
นอกจากนั้น โครงการอุปการะเด็ก มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังมีการดำเนินงานโครงการต่างๆ เพื่อการพัฒนาความอยู่ดีมีสุขแก่เด็ก ครอบครัว และชุมชน อย่างรอบด้าน เพื่อให้เด็กในความอุปการะ รวมถึงเด็กคนอื่นๆ ในชุมชนได้รับโอกาสในการพัฒนาเต็มตามศักยภาพที่พวกเขามี ซึ่งแพรวเองก็ได้รับโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง “ในช่วงมัธยม หนูได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการพัฒนาเยาวชนหลายครั้งค่ะ ทั้งกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต พัฒนาทักษะอาชีพ และหนูยังได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการต่างๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในชุมชน เช่น โครงการฟื้นฟูและปกป้องชุมชนจากผลกระทบและความเสี่ยงของโควิด-19 ซึ่งเป็นโครงการที่หนูและเพื่อนๆ รู้สึกภูมิใจมากค่ะ ที่ได้มีโอกาสร่วมทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนของหนู”
และเมื่อไม่นานมานี้ แพรว ยังได้รับโอกาสเป็นตัวแทนผู้นำเยาวชน เข้าร่วมอบรม หลักสูตรสายธารแห่งความหวังในประเด็นเรื่องเพศ ร่วมกับผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนา เพื่อร่วมเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ การสร้างความตระหนักในเรื่องเพศในมุมมองความเชื่อ การเข้าใจและมีความรู้ เพื่อตอบสนองต่อประเด็นเรื่องเพศได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่ความอยู่ดีมีสุขของเด็ก ครอบครัว และชุมชน
“ดีใจมากค่ะที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้ หลักสูตรสายธารแห่งความหวังในประเด็นเรื่องเพศ เป็นหลักสูตรที่ดีมาก หนูได้เรียนรู้ในประเด็นทัศนคติเรื่องเพศซึ่งนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ซึ่งหนูและเพื่อนๆ ตั้งใจที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปบอกต่อกับเพื่อนๆ เยาวชนในโรงเรียนต่อไปค่ะ” แพรว กล่าวทิ้งท้าย