ในทุกวิกฤต เด็กคือกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ทั้งทางตรงและทางอ้อม วิกฤตโรคระบาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเราทุกคนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิต การทำมาหากิน สุขภาพ การเรียน รายงานผลกระทบของการระบาดโรคโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทย ขององค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย พบว่า “ประมาณร้อยละ 60 ของครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและครอบครัวที่มีเด็กและสตรี ขาดแคลนอาหารในช่วงปีแรกของการระบาดของโควิด-19” และ “มีคนไทยมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนเพิ่มขึ้นประมาณ 400,000 คน” ซึ่งถือว่าเป็นคนจน
“ช่วงที่โควิด-19 ระบาดที่ผ่านมา ครอบครัวเราใช้ชีวิตลำบากมากค่ะ รายได้จากงานรับจ้างก็ลดลง ครอบครัวที่ลำบากอยู่แล้วยิ่งลำบากมากกว่าเดิม เราก็ทำได้แค่อดทนและให้กำลังใจกันในครอบครัว” ฉัตรชนก แม่ของน้องสโน เด็กหญิงวัย xx ปี จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน เอ่ยถึงผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดในช่วงที่ผ่านมา “รู้ทั้งรู้ว่าอาจจะไม่มีใครจ้างงาน ใครๆ ก็กลัวโรคระบาด แต่ก็ต้องออกไปหารับจ้าง ไปพร้อมกับความรู้สึกกังวลว่าวันนี้จะมีคนจ้างงานไหม ถ้าไม่มีจะเอาเงินที่ไหนมาซื้ออาหารกลับไปทำให้ลูกกิน” ในวันที่ความหวังและรอยยิ้มถูกกลบหายไป “มีผู้อุปการะให้ความช่วยเหลือน้องสโน” แม่ของเด็กหญิงตัวน้อยเล่าถึงของขวัญที่ได้รับเมื่อสองปีที่ผ่านมา เป็นของขวัญแสนพิเศษที่ผู้อุปการะได้หยิบยื่นให้ในวันที่เธอแทบจะไม่เหลือความหวัง
และนับตั้งแต่นั้น ความสุขในรอยยิ้มของน้องสโนและแม่ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากของขวัญเพื่อความอยู่ดีมีสุขกล่องต่อๆ มา ไม่ว่าจะเป็นอาหารและของใช้จำเป็นในยามวิกฤต สื่อและของเล่นเสริมพัฒนาการ หนังสือนิทานเสริมการเรียนรู้ รวมถึงปัจจัยการศึกษาในวันที่น้องสโนถึงวัยเข้าเตรียมพร้อมด้านการเรียนรู้ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อีกหนึ่งของขวัญแสนพิเศษที่จุดประกายความหวังด้านการทำมาหากินของครอบครัวเด็กยากไร้นี้ให้กลับคืนมา “ก่อนหน้าที่ทำงานรับจ้าง ทุกครั้งที่ออกไปหางานจะมีความกังวลว่าวันนี้จะมีคนจ้างงานมั้ย ถ้าไม่มีจะเอาที่ไหนมาให้ลูกได้กินอิ่ม แต่ก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้า เมล็ดพันธุ์ผัก และไก่พื้นเมืองที่ได้รับมา ช่วยให้ครอบครัวมีอาหารไว้บริโภค และยังเป็นรายได้ด้วย เราวางแผนกันว่าเงินจากการขายผัก เห็ด และไก่ จะแบ่งส่วนหนึ่งเก็บออมเอาไว้เพื่อใช้สำหรับการลงทุนเพาะเลี้ยง และขยายพันธุ์ต่อ ค่อยๆ ทำให้กลายเป็นอาชีพที่เลี้ยงดูครอบครัวได้ค่ะ”
ของขวัญหลายกล่องที่น้องสโนและแม่ได้รับค่อยๆ สร้างความสุขที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม “ตอนนี้บ้านเรามีรายได้ มีอาหารให้ลูกได้รับประทานในทุกๆ มื้อ จากเมื่อก่อนที่น้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ แต่ตอนนี้ลูกโตขึ้นและแข็งแรงขึ้นแล้วค่ะ เราขอขอบคุณมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่ทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขอบคุณหนำๆ อ่อ (ขอบคุณมากๆ คะ)” แม่ของน้องสโนกล่าว โดยมีเสียงเล็กจากเด็กหญิงตัวน้อยพูดต่อท้ายพร้อมท่าทางเขินอายว่า “ขอบคุณค่ะ”