เมื่อมิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา โดยการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน อาทิ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 กิ่งกาชาดโนนดินแดง องค์การบริหารส่วนตำบลส้มป่อย คุณบุษบา จิราธิวัฒน์ ผู้อุปการะมูลนิธิศุภนิมิตฯ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด และบริษัท แคนเบอร์รี่ จำกัด มอบบ้านปันสุขให้กับครอบครัว น้องมีน มินต์ทิวา เด็กในความอุปการะฯ ที่ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้บ้าน
คุณเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กล่าวในพิธีมอบบ้านหลังใหม่ว่า “การสร้างบ้านเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีนี้เป็นความร่วมมือจากทางราชการ องค์การบริหารส่วนตำบล หน่วยงานพื้นที่การศึกษาเขต 3 บุรีรัมย์ กิ่งกาชาดโนนดินแดง มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย บริษัทแคนเบอร์รี่ ส่วนห้างร้านจากบริษัทไทวัสดุ จำกัด พร้อมด้วยแรงช่างกำลังทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ที่มาช่วยดำเนินโครงการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ วันนี้เป็นวันดีที่ได้มอบบ้านให้ครอบครัวผู้ประสบภัย ขอให้ทั้งครอบครัวได้อยู่เย็นเป็นสุข”
“ผมขอขอบคุณมือทุกมือ หัวใจทุกหัวใจ ทุกความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่มาร่วมกันสร้างความดีในวันนี้ การประสานของบประมาณโดยมูลนิธิศุภนิมิตฯ ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ความร่วมมือของทุกท่านในที่นี้คือสิ่งที่สำคัญกว่า” คุณวีระชัย มุกขะกัง ผู้จัดการกลุ่มโครงการพัฒนาฯ สุรินทร์ บุรีรัมย์ กล่าวเสริม
เป็นเวลาเกือบ 6 เดือน ที่น้องมีนและครอบครัว ไม่มีบ้านที่อยู่อาศัย การช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนช่วยให้ทั้งครอบครัวได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง “ลำบากทุกอย่าง ขนาดช้อนจะกินข้าวยังไม่มีเลย โชคดีที่ตอนนั้นขายน้ำยางได้ 2,000 บาท ก็พอช่วยประทังชีวิตช่วงนั้นไปได้ ถ้าเป็นบางคนก็อาจถึงฆ่าตัวตายเลยตอนที่ไฟไหม้บ้าน แต่พอมีทางมูลนิธิศุภนิมิตฯ ทางส่วนราชการมาช่วยก็ค่อยยังชั่วขึ้น เราได้รับความช่วยเหลือทั้งข้าวสารอาหารแห้ง ของอุปโภค บริโภค เสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็น” พ่อบาน อายุ 53 ปี พ่อของน้องมีน เล่าให้ฟังถึงความยากลำบาก
หลังจากที่เกิดเหตุไฟไหม้ ทั้ง 4 ชีวิตได้ย้ายไปอยู่บ้านในสวนยางซึ่งเป็นสวนที่พ่อบาน และแม่มุก พ่อ-แม่ของน้องมีนรับจ้างกรีดยางเป็นประจำ เพื่อเป็นที่นอนที่พักพิงชั่วคราว ก่อนย้ายมาพักในเต็นท์ใกล้บ้านหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง
แม่มุก อายุ 32 ปี เล่าว่า “ตอนไฟไหม้ทีแรกนะ พี่คิดเลยว่าครอบครัวเราคงลำบากมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมันเสียหายไปหมดทุกอย่างเลย ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ เครื่องมือทำมาหากิน เหลือแค่เสื้อผ้าติดตัวคนละชุด รองเท้าแตะยังไหม้หมดเลย เด็กๆ ก็มีชุดนักเรียนติดตัวแค่นั้น ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาช่วยเหลือ เป็นแรงใจและกำลังใจให้ได้สู้ต่อ เด็กๆ เขาดีใจมาก โดยเฉพาะตัวเล็กจะไล่บอกทุกคนว่า นี่บ้านหนูๆ ส่วนลูกคนโตก็ถามแม่ว่า แม่ดีใจไหมที่เราได้บ้านใหม่” แม่มุก เล่าด้วยความซาบซึ้งใจที่ได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้
เพราะน้ำใจจากทุกท่านช่วยดับไฟร้อนในใจ และยังช่วยดับความทุกข์ยากให้ครอบครัวน้องมีนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง “ขอบพระคุณมากครับที่มาช่วยอนุเคราะห์ในครั้งนี้ ชีวิตใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้วครับ” พ่อบาน เล่าเสริมด้วยรอยยิ้มแห่งความปิติ