WVFT-logo_dark_rgb

เพื่อเด็กที่อยู่ในภาวะเปราะบางมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

‘ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง’ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตฯ เผยแผนรับมือเมื่อต่างชาติยกเลิกให้เงินบริจาคแก่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ช่วยเด็กยากจน

ต่างประเทศมองปัญหาเด็กยากจนในไทยดีกว่าหลายประเทศ ทำให้ตั้งแต่ปี 2021 การจัดสรรเงินบริจาคจากต่างประเทศของหลายมูลนิธิไม่มีส่งให้ไทย กระทบมูลนิธิต้องเร่งปรับกลยุทธ์

ผู้สื่อข่าว ‘ประชาชาติธุรกิจ’ ได้สัมภาษณ์ประเด็นดังกล่าวกับ ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง ผู้อำนวยการ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย (World Vision Foundation of Thailand) ซึ่งเป็นองค์กรคริสเตียนสาธารณกุศลและเป็นเครือข่ายของศุภนิมิตสากล (World Vision International) และก่อตั้งเป็นมูลนิธิศุภนิมิตในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2517 มีการดำเนินงานในประเทศไทยจนถึงปัจจุบันเกือบ 50 ปีแล้ว ทั้งนี้ มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้รับบริจาคทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนดำเนินงานช่วยเหลือเด็ก ครอบครัว และชุมชนที่อยู่ในภาวะเปราะบาง ยากไร้ และด้อยโอกาส

ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง เผยว่าเครือข่ายต่างประเทศมองว่าปัญหาเด็กยากจนในประเทศไทยดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน และดีกว่าอีกหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งมองว่าคนไทยสามารถให้การช่วยเหลือเด็ก ๆ ในประเทศตนเองได้มากขึ้น จึงทำให้นับตั้งแต่ปี 2022 จะไม่มีเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศมาช่วยโครงการที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือเด็กในไทยแล้ว

สำหรับรูปแบบการระดมทุนจากบุคคลทั่วไปของมูลนิธิศุภนิมิตฯ เป็นการรับเงินบริจาคจากผู้อุปการะแบบรายเดือน จำนวน 700 บาทต่อเดือน ผ่าน “โครงการอุปการะเด็ก มูลนิธิศุภนิมิตฯ” และนำเงินทุนไปจัดสรรรวมกับเงินบริจาคจากผู้อุปการะรูปแบบอื่นเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็กในความอุปการะ ครอบครัว และชุมชนยากไร้ในพื้นที่ที่เด็กอาศัยอยู่

“ในอดีตเรามีสัดส่วนเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศมากถึง 70% และค่อยลดลงเรื่อย ๆ โดยปี 2019 มี 14% และปีนี้ 7% ซึ่งปีหน้าจะเป็นศูนย์ เพราะเครือข่ายของศุภนิมิตสากลจะนำเงินบริจาคจากต่างประเทศไปช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในประเทศอื่นที่ประสบปัญหาและยากจนมากกว่า” ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง เผยสัดส่วนเงินบริจาคที่ได้รับ

ทั้งนี้ ในปี 2019 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้รับบริจาคจากในประเทศรวม 450 ล้านบาท จากต่างประเทศรวม 78 ล้านบาท และจากแหล่งอื่นๆ 22 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในโครงการอุปการะเด็ก 394 ล้านบาท ที่ครอบคลุมเรื่องการพัฒนาเด็กและครอบครัว การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในชุมชน และการสร้างเครือข่ายส่งเสริมการมีส่วนร่วมในชุมชน และเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาอื่นๆ รวม 156 ล้านบาท ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาวะที่ดี การแก้ไขปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเด็ก ครอบครัว และชุมชน รวมถึงกลุ่มประชากรข้ามชาติที่อาศัยในประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางและด้อยโอกาส

“เราทำโครงการที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนรวมทั้งหมด 74 โครงการ และโครงการเพื่อการพัฒนาอื่นๆ 14 โครงการ ใน 42 จังหวัด 2,279 หมู่บ้าน โดยมีเด็กและเยาวชนในความอุปการะ 59,148 คน แบ่งเป็นเด็กที่อยู่ในความอุปการะจากเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศประมาณ 9,000 คน”

ไม่เพียงแต่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่จะไม่ได้รับเงินบริจาคจากต่างประเทศสำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องกับการอุปการะเด็ก แต่หลายมูลนิธิในประเทศไทยก็จะได้รับเงินบริจาคจากต่างประเทศน้อยลงหรือไม่ได้รับเช่นเดียวกัน

“ทำให้มูลนิธิศุภนิมิตฯ ต้องปรับแผนยุทธศาสตรการดำเนินพันธกิจระหว่างปี 2021-2025 ใหม่ โดยมิติที่เกี่ยวกับการหาเงินทุน เราต้องพยายามหาแหล่งเงินทุนให้หลากหลาย เช่น เงินสนับสนุนจากทั้งบุคคลและนิติบุคคล ในหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน โดยมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย มีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในภาวะเปราะบาง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 3 ล้านคน ภายในปี 2025”

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-sustainability/news-569387

บทความอื่นๆ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า